วันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Protozoa

Balantidium coli 
          
          เป็น โปรโตซัว (protozoa) ชนิดหนึ่ง ใน ธรรมชาติ มีวงจรชีวิต 2 ระยะ คือ ระยะ trophozoite และ ระยะ cyst นับว่าเป็น เชื้อโปรโตซัว ที่มีระยะ trophozoite ในคน ที่ใหญ่ที่สุด เชื้อปาราสิต ชนิดนี้พบ ได้ตามที่ ต่างๆทั่วโลก โดยเฉพาะ ภูมิประเทศ ที่มีอากาศร้อนชื้น ปกติตัว Balantidium coli พบได้ใน หมู, ลิง และหนู เฉพาะใน หมูพบว่า มี การติดเชื้อ และทำให้เกิด ท้องร่วง (dysentery) ในคน ค่อนข้างน้อย ส่วนมาก พบใน กลุ่ม ประชากร ที่มี สุขอนามัยไม่สมบูรณ์
             อย่างไรก็ตามรายงานการเกิดบาแลนติดิเอซิสในประเทศไทยมีเป็นครั้งคราวแต่อาการไม่รุนแรง มีรายงานเกิดเป็นแผลทะลุลำไส้และทำให้เกิดเยื่อบุช่องท้องอักเสบถึงตาย เพียงครั้งเดียวและไม่ทราบแหล่งของการติดเชื้อ

  อนุกรมวิธาน 

       โปรโตซัวในกลุ่มซิลิเอตกลุ่มนี้อยู่ใน phylum Ciliophora, จัดอยู่ใน class Kinetofragminophorea, subclass Vestibuliferia, order Trichostomatida, suder Trichostomatina

  สัณฐานวิทยา



Balantidium coli เป็นโปรโตซัวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่พบในคน

Balantidium  coli - trophozoite

Balantidium  coli - cyst

      ระยะ trophozoite ย้อมสีด้วย ircn-hematoxylin รูปร่างรูปไข่ ขนาด 40-200x30-120 ไมโครเมตร รอบตัวมีขนสั้นๆ (cilia) อยู่เป็นจำนวนมาก มีช่องปาก (cytostom) เป็นรูปกรวย มองไม่ชัด มี food vacuole และมี contratile vacuole ขนาดใหญ่ 1 อัน นิวเคลียสมี 2 อัน อันใหญ่เรียก macronucleus รูปคล้ายถั่วเห็นได้ชัดติดสีดำ และอันเล็กเรียก micronucleus อยู่ใกล้กับอันใหญ่ 

  รูปร่างลักษณะ
  
     Trophozoites เป็นรูปไข่ปกคลุมด้วยขนสั้นมีความยาวใกล้เคียงกัน มีขนาด 50-200x40-70 ไมโครเมตร ที่ข้างหนึ่งของแกนกลางลำตัวตามยาวมีร่องเข้าไปรูปกรวยคว่ำ ลึกโค้งเล็กน้อย ระยะโทรโฟซอยต์กินอาหารทางร่องปาก คือปาก (cytostoma ) ปลายด้านหางกลมกว้าง cytoplasm มี food vacuoles จำนวนมาก และมี contractile vacuole หนึ่งหรือ สองอัน ที่ปลายด้านหางมีรูเปิดเล็กๆเรียก cytopyge อยู่ภายในเซลล์เยื่อหุ้มซึ่งใช้ขับถ่ายของเหลือค้าง จาก food vacuoles Balantidium coli มี 2 nuclei เห็นชัดเจน ซึ่งประกอบไปด้วย นิวเคลียสใหญ่ (macronucleus) รูปร่างคล้ายถั่ว นิวเคลียสเล็ก (micronucleus) อยู่ในโค้งด้านในของนิวเคลียสใหญ่ มีลักษณะเป็นก้นกลมติสีเข้มมาก เชื่อว่ามีหน้าทีเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวควบคุมเกี่ยวกับการเจริญเติบโต การแบ่งตัวแบบไม่อาศัยเพศ สำหรับไมโครนิวเคลียสมีขนาดเล็ก มีหน้าที่ควบคุมเกี่ยวกับการแบ่งตัวแบบอาศัยเพศ ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนสารพันธุกรรม

   วงจรชีวิต

วงจรชีวิตของ Balantidiasis
ที่มา : http://www.cdc.gov/dpdx/images/balantidiasis/Bcoli_lifecycle.gif


        ผู้ป่วยติดเชื้อนี้ ได้โดยทานอาหาร หรือน้ำดื่ม ที่มีระยะ cyst ลงในลำไส้ แต่ การติดเชื้อ ที่ แท้จริงในคน ยังไม่ทราบ แน่ชัด และการติดเชื้อ สู่คนค่อนข้างยาก ภายในลำไส้ใหญ่ trophozoites จะออกจาก cyst มาทำลาย เยื่อบุลำไส้คน โดยเฉพาะบริเวณ cecum ทำให้ลำไส้ เกิดแผล (ulcer) มากมาย แผลเหล่านี้ คล้ายกับแผล ที่เกิดจาก อะมีบา แต่ใหญ่กว่า ตัว trophozoites มีรูปร่างกลมรี ปกคลุมด้วยขน (cilia) โดยรอบ ภายในมี นิวเคลียส ขนาดใหญ่ รูปร่างคล้ายไต เรียกว่า macronucleus และนิวเคลียสขนาดเล็ก เรียกว่า micronucleus อยู่ภายใน ซัยโตพลาส ของมัน สำหรับ cyst มีขนาดเล็กกว่า มีรูปร่างกลม หุ้มด้วยผนัง 2 ชั้นใส สามารถ มองเห็น เชื้อปาราสิต เคลื่อนไหว อยู่ภายใน เส้นผ่าศูนย์กลางของ cyst ประมาณ 51-54.6 ไมครอน

   การกระจายตัว
         
            พบได้ทั่วโลกโดยเฉพาะในเขตร้อน ซึ่งสามารถพบได้ในคน ลิง และหมู แต่พบมากที่สุดในหมู B. coli อาศัยอยู่ในลำไส้ใหญ่ของคน หมู และลิงการสืบพันธ์ของ B. coli เกิดโดยขบวนการแบ่งตัวจากหนึ่งเป็นสอง (binary fission)
1. B. coli ติดต่อสู่คนและสุกรโดยการกินปรสิตระยะซีสต์ ซึ่งปนเปื้อนอยู่ในอาหารและน้ำดื่ม
2. เมื่อผ่านมาถึงลำไส้เล็ก ผนังซีสต์จจะถูกย่อยโดยน้ำย่อยในลำไส้เล็ก ปรสิตระยะโทรโฟซอยต์จะเคลื่อนที่ลงไปอาศัยอยู่ในบริเวณลำไส้ใหญ่
3. การเจริญเติบโตและแบ่งตัวของโทรโฟซอยต์เกิดขึ้นภายในทางเดินอาหารบริเวณลำไส้ใหญ่ ปรสิตอาศัยอยู่เฉพาะในทางเดินอาหารบริเวณลำไส้ใหญ่อาจทำลายหรือไม่ทำลายเซล์บุลำไส้ก็ได้เมื่อมีการแบ่งตัวไปสักระยะหนึ่งโทรโฟซอยต์บางส่านจะแปรสภาพเป็นซีสต์ปะปนออกมากับอุจจาระ

  ลักษณะการก่อโรค 

       ทำให้เกิดโรคในคนเรียกว่า balantidiasis หรือ balantidial dysentery; เชื้อไชผนังลำไส้ใหญ่ทำให้เกิดแผล, แผลโดยทั่วไปมีลักษณะคล้ายแผลที่เกิดจากบิดมีตัว E. histolytica และอาจก่อให้เกิดฝีใต้ผิวลำไส้ใหญ่ (mucosa และ submucosa) บางครั้งแผลทะลุถึงชั้นกล้ามเนื้อ;แผลอาจกลมหรือรีหรือไม่แน่นอน,มีขอบนูน, ใต้แผลบุด้วยหนองและเนื้อเยื่อที่ตายแล้ว,ปากแผลอาจมีมูกเขียวปกคลุม
       กลไกการไชผนังลำไส้โดยเชื้อไม่ทราบชัด เชื้อมีเอนไซม์คล้าย hyaluroidase; คนค่อนข้างจะมีความต้านทานต่อการติดเชื้อ; มีปัจจัยหลายอย่างที่ลดความต้านทานต่อเชื้อลง เช่น ขาดอาหาร(อาหารที่มีโปรตีนต่ำ แป้งสูง) สภาวะการณ์ของแบคทีเรียในลำไส้, โรคที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอ,ภาวะกรดในกระต่(achlorhydria), โรคพิษสุราเรื้อรัง, เป็นต้น        
       B. coli ระยะ trophozoite ที่เกาะกับผิวของเยื่อบุลำไส้ใหญ่จะปล่อยเอนไซม์ hyaluronidase ทำลายเซลล์เยื่อบุลำไส้ แล้วบุกรุกเข้าไปทำให้เกิดแผล การเคลื่อนที่ของเชื้อร่วมกับการแบ่งตัวเพิ่มจำนวนทำให้แผลขยายกว้างขึ้นจนถึงชั้น submucosa ลักษณะแผลคล้ายแผลบิดที่ลำไส้ คือปากแผลแคบฐานแผลกว้าง (flask – shaped ulcer) เยื่อบุลำไส้ที่เน่าตายจะลอกหลุด ในรายที่การติดเชื้อรุนแรงอาจทำให้ลำไส้ทะลุเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ลักษณะทางพยาธิวิทยาของแผลที่ลำไส้ประกอบด้วยเซลล์อักเสบจำพวกลิมโฟซัยต์และอีโอสิโนฟิล แต่ไม่พบนิวโทรฟิล พบ B. coli ที่ขอบแผลได้
       บางครั้งเชื้อลุกลามออกนอกลำไส้ทำให้เกิดพยาธิสภาพที่อวัยวะอื่นๆ ได้แก่ ตับ ปอด เยื่อหุ้มปอด ไต กระเพาะปัสสาวะ ท่อปัสสาวะ ช่องคลอด และมดลูก
       หรือเชื้ออาจจะเข้าสู่ไส้ติ่งทำให้เกิดไส้ติ่งอักเสบ แต่โดยปกติแล้วแผลมักเกิดที่บริเวณ rectosigmoid; แผลนอกลำไส้เกิดน้อยมากและมักจะเป็นผลสืบเนื่องมาจากลำไส้ทะลุ

      คนที่ได้รับเชื้อและติดเชื้อแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มคือ 1.)ไม่มีอาการ 2.) เป็นโรคเฉียบพลัน 3.)เป็นโรคเรื้อรัง กลุ่มแรกมักพบในเขตที่มีโรคนี้ชุกชุม เช่น นิวกินี กลุ่ม 2 มีอาการปวดท้องคลื่นไส้อาเจียนและปวดเบ่ง ไม่ค่อยมีไข้ อาจถ่ายอุจจาระหลายครั้งและอุจจาระมีมูกเลือด กลุ่มเรื้อรังมีท้องร่วงเป็นๆหายๆ สลับกับท้องผูก มีอาการปวดตะคริว

  อาการทางคลีนิค 
            ผู้ป่วยมีไข้ คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง และท้องร่วงมากน้อยเป็นรายๆไป บางราย ถ่ายเป็น เลือด น้ำหนักลด หรือบางคน ไม่มีอาการ แต่เป็น ตัวเก็บเชื้อ (carrier) ผู้ป่วย ส่วนมากมี ประวัติอาชีพ เลี้ยงและขายหมู

  การวินิจฉัย 
          โดยการตรวจพบ พยาธิสภาพ ของแผล และเชื้อปาราสิต ในชิ้นเนื้อพยาธิ หรือตรวจ จากอุจจาระพบ เชื้อระยะ trophozoite หรือระยะ cyst

  การรักษา

       ใช้ยา tetracycline 500 มก. กินวันละ 4 เวลา นาน 10 วันหรืออาจใช้diiodohydroxyquin (diodoquinol) ขนาด 650 มก. กินวันละ 3 เวลา นาน 21 วัน ยา mmetronidazole –okf 400-600 มก. กินวันละ 3 เวลา นาน 5 วัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น